ถ้าพูดถึงรองเท้าของ Dr. Martens สำหรับคนที่ไม่ได้แต่งตัวจัดอาจจะงงๆว่าจะแมตช์เสื้อผ้ายังไงให้เข้ากับรองเท้าแบรนด์นี้ดี เพราะดีไซน์ของรองเท้าเล่นใหญ่จัดเต็มมาก แต่งตัวธรรมดาๆคงเอาไม่อยู่แน่ๆ แต่วันนี้แพรวดอทคอมจะทำให้การแต่งตัวของคุณที่จะใส่กับรองเท้าของ ดร.มาร์ตินส์ง่ายขึ้น เพราะเราจะเอาสไตล์จากคนดัง นายแบบ นางแบบมาให้ดูกัน แต่ก่อนหน้านั้นไปทำความรู้จักกับแบรนด์นี้ก่อนเลย
รองเท้าบู๊ตคู่แรกของ ดร.มาร์ตินส์ เริ่มผลิตเพื่อเข้าสู่ตลาดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1960 โดยมาพร้อมกับเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ การเย็บด้วยด้ายสีเหลือง (Yellow Stitching) ห่วงแขวนที่ข้อ (Heel-Loop) และลายร่องพื้นรองเท้า (Air Cushion Soles) ในช่วงแรก ดร.มาร์ตินส์เป็นที่นิยมในหมู่บุรุษไปรษณีย์และตำรวจ เพราะมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย และทนทานกว่าคู่แข่งในยุคเดียวกัน ถือเป็นรองเท้าสำหรับชนชั้นแรงงานโดยแท้จริง
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ดร.มาร์ตินส์ผ่านการดัดแปลง ปรับเปลี่ยน และถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มวัฒนธรรมย่อยหลายต่อหลายรุ่น สะท้อนความหลากหลายและเฉพาะตัวของผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักดนตรี หรือคนหนุ่มสาว รองเท้า ดร.มาร์ตินส์จึงเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง (Self-expression) ของพวกเขาเสมอ
รูปทรงที่เรียบง่ายของรองเท้า ดร.มาร์ตินส์เปิดทางให้ผู้สวมใส่สามารถเติมแต่งลวดลายเฉพาะของตัวเองได้ พร้อมทั้งมอบความทนทานและการสวมใส่แสนสบายจากรองเท้าที่เป็นตำนานโด่งดัง ดร.มาร์ตินส์คือรองเท้าในอุดมคติในโลกของสตรีทแฟชั่นและแวดวงดนตรี ในด้านคุณค่าทางจิตใจ ดร.มาร์ตินส์คือสัญลักษณ์บ่งบอกทัศนคติและพลัง
ปัจจุบันโรงงานนอร์แธมป์ตันเชอร์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ยังคงเปิดดำเนินการอยู่ในหมู่บ้านวอลลัสตัน โดยมีทีมผลิตกลุ่มเล็กๆทำหน้าที่ผลิตสินค้า “Made in England” ของ ดร.มาร์ตินส์ประจำการ สมาชิกทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตามธรรมเนียมของผู้ที่ได้รับการฝึกฝนวิธีผลิตรองเท้าแบบดั้งเดิม และเทคนิคเฉพาะที่ทำให้ ดร.มาร์ตินส์คือรองเท้าที่ไม่เหมือนรองเท้าคู่ใดในโลกใบนี้
เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์อันยาวนานของ ดร.มาร์ตินส์ในฐานะที่เป็นรองเท้าสำหรับผู้สวมใส่ทุกเพศทุกวัยที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยแบ่งออกตามช่วงยุคของแบรนด์ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบันที่มีสไตล์และคาแร็คเตอร์แตกต่างกัน เริ่มจากยุค 1960 ที่ถือเป็นยุคเริ่มต้น โดยรองเท้าคู่แรกออกวางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1960
ยุค 1970 ดร.มาร์ตินส์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นขบถ เมื่อกลุ่มคนในแวดวงดนตรีเริ่มใส่รองเท้าเพื่อแสดงออกถึงความโดดเด่นและความเป็นตัวของตัวเอง (Self-expression)
เมื่อวัฒนธรรมการแต่งตัวแบบใหม่ๆเกิดขึ้นในยุค 1980 รองเท้า ดร. มาร์ตินส์ไซส์เล็กของผู้ชายถูกนำมาดัดแปลงด้วยลวดลายดอกไม้บนรองเท้ารุ่น 1460 สุดคลาสสิก ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้หญิง คอลเล็คชั่น Printed ได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ โดยเป็นคอลเล็คชั่นที่แสดงถึงความแปลกใหม่และความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการใช้งานศิลปะชิ้นเอกจากศิลปินยุคเรอเนสซองซ์มาทำเป็นลวดลาย หรือนำรอยสักกลิ่นอายเอเชียมาทำเป็นลวดลายบนรองเท้า
ในยุค 1990 ดร.มาร์ตินส์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลวงดนตรีกลางแจ้ง และเป็นเครื่องแบบของการแต่งตัวสไตล์กรันจ์ (Grunge)
ช่วง ค.ศ.2000 รองเท้า ดร.มาร์ตินส์เริ่มผสมผสานความคลาสสิกกับแฟชั่น และกลายเป็นไอเท็มหลักของการแต่งตัวในสไตล์สตรีทแฟชั่น นอกจากนี้ยังมีการออกคอลเล็คชั่น M.I.E รองเท้าแฮนด์คราฟต์ที่ผลิตในโรงงานที่ Cobbs Lane ซึ่งรองเท้าบู๊ตคู่แรกถูกผลิตที่โรงงานแห่งนี้ โดยมีการใช้วัสดุพิเศษและหายาก
จนมาถึงยุคปัจจุบัน รองเท้า ดร.มาร์ตินส์ยังคงสะท้อนถึงตัวตนที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ ในโอกาสนี้จึงได้เปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุด DM’s Lite Tech Knit ที่มีน้ำหนักเบา และผสมผสานดีไซน์คลาสสิกของ ดร.มาร์ตินส์กับผ้าถัก โดยจะวางขายในแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ล่าสุด ณ สยามเซ็นเตอร์ เป็นที่แรกในประเทศไทย
ทาง ดร.มาร์ตินส์ได้จัดงานแสดง DIY DOC’S ซึ่งได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้อาร์ติสต์ชื่อดังที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครทั้ง 6 คน ได้แก่ คุณจิตต์สิงห์ สมบุญ, คุณโอ๋ ฟูตอง หรือหทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ, ป๋าตึก – ภูษิก พัฒนปราการ, คุณซัน Smile Club หรือเมธัส เทพนวล, OCTOBER 29 หรือฐกฤต ครุธพุ่ม และ BBINKO (บิ๊งโกะ) หรือภาพฟ้า พุทธรักษา มาร่วมออกแบบสร้างสรรค์ลวดลายและดัดแปลงรองเท้าให้สะท้อนถึงตัวตนของศิลปินแต่ละคน
BBINKO ภาพฟ้า พุทธรักษา และผลงาน DIY DOC’S ในชื่อ The Watcher ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eyes talk”
ก
จิตต์สิงห์ สมบุญ และผลงาน DIY DOC’S ในชื่อ สไตล์มีสติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ ก้าวออกไปอย่างมีสติ”
ด
ป๋าตึก – ภูษิก พัฒนปราการ และผลงาน DIY DOC’S ในชื่อ WORKERS’ SHOES ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยิ่งเก่ายิ่งสวย”
ก
ซันนี่ & สมายคลับ และผลงาน DIY DOC’S ในชื่อ TATTOO สไตล์ไทยไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศิลปะ ABSTRACT”
ด
ผลงาน DIY DOC’S ของโอ๋ ฟูตอง หรือหทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ในชื่อ “Summer Walk”
October 29 หรือฐกฤต ครุธพุ่ม และผลงาน DIY DOC’S ในชื่อ ศิลปะคือแรงผลักดันชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศิลปะคือแรงผลักดันชีวิตให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีทิศทาง”
จากคอนเทนต์ด้านบน เราก็ได้รู้ไปแล้วว่ารองเท้า ดร.มาร์ตินส์มีความเป็นมายังไง มีแบบไหนบ้าง ตอนนี้มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอยกันแล้ววว มาดูกันว่าต้องแต่งตัวยังไงถึงจะเข้ากับรองเท้า ดร.มาร์ตินส์ได้อย่างสมู้ต
ก
ถึงคนดังแต่ละคนจะจัดเต็มแค่ไหน ก็พอเอาแบบมาปรับให้เข้ากับตัวเองได้นะ อย่างสไตล์ของเจเจกับต้าเหนิง หรือจะเป็นหนุ่มเป้ – อารักษ์ หนุ่มภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ ก็มาในสไตล์ง่ายๆ ที่เข้ากับรองเท้าของ ดร.มาร์ตินส์ได้ดีเลย ใครที่เป็นแฟนของแบรนด์นี้ แต่ยังไม่มีไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ ก็ดูเซเลบริตี้เป็นแบบได้ เพราะจะทำให้การแต่งตัวของคุณง่ายขึ้นเยอะเลย
The post แต่งตัวยังไงให้เข้ากับรองเท้า “Dr. Martens” พร้อมเปิดคอลเล็คชั่นใหม่ที่ใส่ง่ายกว่าเดิม appeared first on แพรวดอทคอม – All Luxe You Can Reach.